❤++++++❤ สาวไกด์ตะลุยสิงคโปร์ ตอน ๒ - สวนนกจูร่ง ❤++++++❤
จากตอนที่แล้ว สาวไกด์พาไปกินโจ๊กกบ กบหม้อดิน และบอกเล่าเรื่องการเดินทางด้วย MRT จากสนามบินมาออร์ชาร์ดแล้ว
วันนี้จะเริ่มพาเที่ยวแล้วค่ะ (จริงๆ ตามโปรแกรมวันนี้มีทั้งสวนนกฯ สวนจีน และไนท์ซาฟารี แต่ขอแบ่งละกันนะคะ ไม่งั้นจะยาวไปอะค่ะ)
เริ่มด้วยการตื่นนอนในเวลา 07.30 น. ตามเวลาของที่โน่น (เร็วกว่าประเทศไทย ๑ ชั่วโมง) หลังทำกิจธุระส่วนตัวเสร็จก็จัดข้าวจัดของ ได้แก่ โบรชัวร์ต่างๆ แซนด์วิชและนม (เนื่องด้วยตั้งใจว่าแต่ละวันจะกินอย่างประหยัด ๑ มื้อ และกินแบบเต็มที่ ๑ มื้อ) แพ็คลงเป้ประจำกายแต่ละคน
จากนั้นก็นั่ง MRT เจ้าเดิมไปเปลี่ยนเป็นสายสีเขียวปลายทาง Boonlay (อีกแล้ว) แต่คราวนี้ลงสุดสถานีค่ะเพื่อที่จะไปนั่งรถเมล์ต่อ
จริงๆ มีสองสายที่ไปได้นะคะ แต่เราก็เลือกไปที่สาย ๑๙๔ กัน (เพราะเห็นป้ายมันเขียนว่าสวนนกจูร่งชัวร์ๆ กร๊ากกกกก )
สถานีรถเมล์เค้าจะมีช่องๆ อย่างนี้ค่ะ แล้วก็จะมีหมายเลขรถเมล์บอก จุดหนึ่งก็ประมาณสามสายด้วยกัน นั่งรถไปไม่นานก็ถึงสวนนกจูร่งค่ะ
ตอนเราไปถึงนี่ก็ใกล้ๆ จะ 10.00 น.อยู่แล้วค่ะ ก็เลยรีบวิ่งงงงงงกันหูตูบ เพราะโชว์ตัวแรกจะโชว์ตอน 10.00 น.ไปถึงก็เริ่มโชว์ไปหน่อยหนึ่งแล้ว ส่วนใหญ่จะเป็นการแสดงความสามารถพิเศษของพวกนกล่าเหยื่ออะค่ะ
เราชอบเจ้าตัวนี้มาก (เค้าเรียก Crown Birds เหมือนๆ มีมงกุฎบนหัวอะค่ะ) ตัวนี้เค้าจะกระโดดเหยงๆๆๆ ตลอดเลย แล้วก็แสดงความสามารถด้วยการฆ่างูค่ะ (แหะๆ แต่งูปลอมนะคะไม่ใช่งูจริง)
อีกตัวที่ชอบคือตัวที่แหงนคอได้เยอะๆ (แต่ไม่ได้ถ่ายรูปมา) น่ารักขี้เล่นมากๆ ค่ะ เค้าชอบดึงเชือกรองเท้าของพิธีกรตลอดเลย ขำมั่กๆ (คือเวลาไปเป็นไกด์ ไม่เคยได้นั่งดูกะเค้าหรอกค่ะ เหอๆ ) นอกนั้นก็จะมีพวกนกเหยี่ยวเอย อีแร้งเอย มีโชว์โผไปจัดนกเป็ดน้ำ โผไปฆ่ากระต่าย (ซึ่งแน่นอนใช้เหยื่อปลอมทั้งสิ้น ซึ่งดีค่ะ เพราะเราไม่อยากเห็นภาพสยอง )
ระหว่างการแสดงก็จะมีการขออาสาสมัคร มีคนไทยคนหนึ่งด้วยค่ะ แนะนำชื่อว่า Apple พอบอกว่าจาก Thailand เท่านั้นแหละ เสียงครางฮือดังมาจากผู้ชมเลย (ท่ามกลางความงุนงงของเราว่าเค้าจะครางทำไมกัน )
แต่เจ้าตัวเค้าน่ารักด้วยอะค่ะ ขาวอีกต่างหาก (สงสัยคนดูตื่นเต้นเพราะเหตุนี้กระมังคะนะ)
จากนั้นก็พากันไปดูนกเพนกวินค่ะ ก็จะมีเจ้าหน้าที่อธิบายว่า ชีวิตมันเป็นอย่างไร มีอยู่ที่ขั้วโลกไหน (มีใครรู้มั้ยค้า? ) แล้วก็โยนปลา งับ งับ งับ กินกันเป็นหมู่เป็นเหล่าน่าร้ากกกกกก
นกเพนกวินที่อยู่ในตู้ก็จะมีทั้งเดินๆ เป็นแถวรอกินปลา กับแหวกว่ายในน้ำและผิวน้ำค่ะ (ดูเงายังกะปลามากกว่านกนะคะนี่ เหอๆ) ขนเค้าแบบมันๆ นิดๆ ก็เลยทำให้ไม่เปียกน้ำอะนะคะ แต่ขนละเอียดสวยมั่กๆ (ถ้าใครเคยดูหนังเรื่อง Emperors Penguin แล้วคงพอนึกภาพออกอะนะคะ)
จากนั้นก็ไปแวะถ่ายรูปกับฟลามิงโก้สีชมพู พร้อมกับเดินผ่านรถรางไปก่อน (กะว่าดูโชว์ใหญ่รอบ 11.00 น. แล้วค่อยมาขึ้นค่ะ) รถรางที่นี่ติดแอร์ค่ะ แล้วก็เป็นรถรางที่เพ้นท์เป็นการบินไทยด้วยนะคะนี่
สำหรับโชว์รอบ 11.00 น.นี่ก็เป็นพวกนกสวยงามต่างๆ ค่ะ อย่างนกแก้วเอย ฟลามิงโกเอย มีทั้งคาบแบงค์จากคนดูไปให้พิธีกร ร้องเพลงแฮปปี้เบิร์ดเดย์ ร้องเพลงมาเลเซีย นับเลขทั้งภาษาอังกฤษและจีนกลาง (นับถือคนฝึกจริงๆ ให้ตายดิ ) แข่งกันชู้ทลูกบาส และบินลอดห่วงค่ะ
จากโชว์เสร็จก็พากันไปดูที่นกกลางคืน เจอ พิกวิเจี้ยนด้วยค่ะ (ใครบ้าแฮรี่คงพอเข้าใจ) น่าร้ากกกกก แต่ก็ยังมีบางคนไม่ได้รู้ภาษาเลยค่ะ เห็นอยู่ว่าเป็นนกกลางคืน ยังใช้แฟลช (คนไทยด้วยค่ะ เราก็เลยบอกว่า นกกลางคืนห้ามใช้แฟลชนะคะ เค้าก็หันมามองนิ่งๆ แล้วก็เดินไปค่ะ ) แล้วก็มีใช้แสงแฟลชจากมือถือ (นึกออกมั้ยคะที่เป็นไฟส่องๆ แทนแฟลชเวลาถ่ายรูปจากมือถือ) ท่าทางเป็นคนอินเดีย เราก็ได้แต่มองแล้วก็บ่นพึมพำ แต่เค้าก็ไม่สนใจนะคะ เฮ้อ.. ทั้งที่พอตัวเองส่องไฟไปเพื่อถ่ายเนี่ย มันก็หันหน้าหนีให้ตลอด ก็ยังไม่รู้ตัวอีกอะค่ะ
แต่เราก็สามารถถ่ายมาได้โดยไม่ใช้แฟลชนะคะ (แต่ภาพก็ได้แค่เท่าที่เห็นนี่แหละค่ะ) เห็นแล้วอยากมีสักตัวเหมือนแฮรี่จังเยยง่า อ้วนๆ กลมๆ กะปุ๊กลุ้ก น่ารักที่ซู้ดดดดดดด
จากนั้นแล้วก็ได้เวลามานั่งรถราง คนเยอะมากกกกกกกกกกค่ะ (ไม่น่าเลยชั้น ) รอประมาณเกือบสี่สิบนาทีค่ะกว่าจะได้ขึ้น สถานีของรถรางลอยฟ้านี่มีทั้งหมด ๓ สถานีค่ะ จริงๆ ก่อนหน้านี้ เค้าใช้ระบบขึ้นทางลงทางนะคะ แต่ตอนนี้ที่สวนนกจูร่งกำลังก่อสร้างเพิ่มเติม ก็เลยต้องมาขึ้น-ลงบันได้เดียวกันแต่เอาโซ่มาแบ่งช่องไว้อะค่ะ
ระหว่างที่เรานั่งไปก็จะมีการบรรยายเป็นภาษาอังกฤษค่ะ พอลงสถานีแรกปุ๊บก็เดินเข้าไปทางร้านกาแฟ ทะลุร้านกาแฟไปก็จะเจอกรงนกใหญ่มั่กๆ สามารถให้อาหารนกแก้วได้ ถ้วยเล็กก็ถ้วยละ ๒ เหรียญค่ะ นกที่นี่เชื่องมาก แต่เค้าไม่ยอมให้ลูบตัวนะคะ
ตอนให้อาหารนกค่ะ ใกล้ชิดมั่กๆ
แล้วเราก็กินอาหารกลางวันกันที่นี่แหละค่ะ ซื้อแซนด์วิชมาคนละชุด (ที่เอามาเอาไม่อยู่ค่ะ หิวจัด ) อิ่มหนำสำราญเสร็จก็นั่งรถไฟโมโนเรลต่อไปที่สถานีน้ำตก (ชื่อเหมือนกาญจนบุรีมั้ยคะ ) เพื่อไปถ่ายรูปกับน้ำตกที่ทำโดยมนุษย์ที่สูงที่สุดในโลก (สูง 1000 เมตรค่ะ)
แล้วตรงใกล้ๆ บริเวณนั้นก็มีทางเดินไปดูนกประเภทต่างๆ ค่ะ (พวกนกเป็ดน้ำเอย อะไรเอยน่ะค่ะ) แต่เราเดินดูแค่แป๊บเดียวแล้วก็นั่งรถรางกลับมาที่สถานีเดิม ก็จะผ่านร้านอาหารที่อยู่ริมสระนกค่ะ น่าไปทานเหมือนกันค่ะ (บอกไว้เผื่อใครคิดจะไปทานอาหาร แต่ไปทานมื้อเช้าน่าจะเวิร์คสุดอะค่า)
เสร็จสรรพจากที่ตั้งใจว่าจะอยู่ที่นี่แค่ครึ่งวัน ออกมาจริงซะบ่ายสองครึ่ง แต่ก็ตัดสินใจไป Chinese Garden ต่อค่ะ (นั่งรถไฟจาก Boonlay ไปสองสถานีค่ะ)
สำหรับสวนจีนครั้งหน้าจะมาเล่าให้ฟังต่อนะคะ
การเดินทางไปสวนนกจูร่ง
นั่งรถไฟใต้ดินสาย Boonlay (สีเขียว) ลงที่สถานี Boonlay (สุดสาย) จากนั้นต่อรถเมล์สาย 194 หรือ 251 ลงป้ายสวนนกจูร่ง ขากลับนั่งสาย 194 (หรือ 251 เนี่ยค่ะ มันมีสายหนึ่งที่สุดสายที่นี่พอดี แนะนำให้นั่งสายนั้น ดูที่ป้ายตรงป้ายรถเมล์ก็ได้ค่ะ มีบอกไว้) นั่งจากป้ายเดิม กลับมาที่สถานี Boonlay ใช้เวลาเดินทางประมาณ ๑ ชั่วโมง (จากออร์ชาร์ด)
ค่าเข้าชม ๑๔ เหรียญ ค่ารถรางอีก ๖ เหรียญ
ข้อแนะนำ
ควรไปตั้งแต่เช้า ดูโชว์ทั้งสองรอบ 10.00 น. และ 11.00 น. ควรนั่งรถรางและลงที่สถานีแรก เพื่อไปให้อาหารนกในกรงขนาดใหญ่
ถ้าไม่เตรียมอาหารไปเอง ที่สถานีแรกก่อนเข้าไปในกรงขนาดใหญ่นี้มีร้านอาหาร (กาแฟ) เล็กๆ สามารถซื้อพวกแซนด์วิชทานได้ มีกาแฟและเครื่องดื่มอื่นๆ
ควรใช้เวลาอยู่ที่ประมาณ ๔-๕ ชั่วโมง (ถ้าเอาเที่ยวแบบไม่รีบร้อนมากนะคะ)
ถ้าไหวจะเดินเที่ยวก็ได้ พื้นที่กว้างพอสมควร การนั่งรถรางทำให้เดินน้อยลง แต่ก็จะพลาดกรงนกบางอันที่สวยๆ
เพิ่มเติม
ตอนที่เจ้าของบล็อกไป สวนนกจูร่งกำลังสร้างพื้นที่เพิ่ม เจ้าหน้าที่แจ้งว่า อาทิตย์หน้าจะเปิดได้แล้ว มีร้านอาหารเพิ่ม ร้านขายของที่ระลึกเพิ่ม และส่วนการแสดงนกเพิ่มค่ะ ใครไปทีหลังสาวไกด์ฯ คงจะได้ไปเห็นโซนใหม่ที่ว่านี้นะคะ (ตรงใกล้ๆ กับเพนกวินน่ะค่ะ)
ขอบคุณทุกท่านสำหรับการแวะมาอ่านนะคะ
สำหรับท่านใดที่แวะมาบ้านสาวไกด์เป็นครั้งแรก (หรือเคยมาแล้วแต่มีหนังสือกับหนังที่อยากแนะนำเพิ่มเติม)
เรียนเชิญ ที่นี่ค่ะ
Create Date : 17 กรกฎาคม 2549 |
|
53 comments |
Last Update : 17 กรกฎาคม 2549 9:57:02 น. |
Counter : 3107 Pageviews. |
|
|
|